เที่ยวพม่าวันเดียว สนุกครบรส กิน เที่ยว ช้อป ไปไหนได้บ้าง?

มิงกะละบา… สวัสดีกันด้วยภาษาเมียนมาร์ก่อนเลย เพราะวันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไป ทัวร์พม่า 1 วัน แบบครบรส! จัดเต็มทั้ง กิน เที่ยว ไหว้พระ ช้อปปิ้ง กิจกรรมเยอะขนาดนี้ เที่ยวพม่าแบบ One Day Trip ก็เอาอยู่! ถูกใจคนชอบเที่ยวและสายบุญแน่นอน ไม่ต้องรอวันหยุดยาวหรือใช้วันลาพักร้อน เพราะเราสามารถ เที่ยวพม่าวันเดียว ไปเช้า-เย็นกลับจากเมืองไทยได้แบบชิลๆ และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 ทางเมียนมาร์ก็ได้กลับมาเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย สำหรับเดินทางเข้าออกสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง ใครมีเวลาน้อยแต่อยากไปไหว้พระขอพรที่พม่า จัดไปเลยค่ะ เรามาดูกันว่า One Day Trip ในพม่า เมืองย่างกุ้ง จะไปไหนได้บ้าง…?

สายบุญห้ามพลาดกับพิกัด เที่ยวพม่าวันเดียว ในเมืองย่างกุ้ง นั่นก็คือที่ เจดีย์ชเวดากอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพม่า จุดเด่นของที่แห่งนี้ก็คือ พระมหาเจดีย์สีทองอร่าม มีความสูงถึง 105 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 36 ชั้น ด้านบนพระเจดีย์ประดับด้วยพลอย ไพลิน และอัญมณีมีค่ามากมาย ภายในเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ส่วนฐานแปดเหลี่ยมของพระเจดีย์ทำจากอิฐ ปกคลุมด้วยแผ่นทอง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมพระเจดีย์ได้ แต่อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นค่ะ

สำหรับการไหว้พระมหาเจดีย์ชเวดากองนั้น ต้องใช้เครื่องสักการบูชา คือ ดอกมหาหงส์ และใบหว้า ที่เชื่อว่าจะทำให้การขอพรสำเร็จตามที่คาดหวัง นอกจากนี้พื้นที่โดยรอบพระมหาเจดีย์ชเวดากองทั้ง 8 ทิศ ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระพุทธรูปประจำวันเกิดอีกด้วย บอกเลยว่าถ้ามา ทัวร์พม่า แต่ไม่ได้แวะสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ถือว่าพลาดอย่างแรง!!

เวลาทำการ : ทุกวัน 04.00-22.00 น. (บางวันอาจเปิด 24 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบวันเวลาทำการและสภาพอากาศได้ที่ www.shwedagonpagoda.com)
ค่าเข้าชม : 10,000 จ๊าด
คำแนะนำ : ต้องถอดรองเท้าและถุงเท้าทุกครั้ง ตั้งแต่เริ่มย่างเท้าเข้าสู่เขตเจดีย์ วิธีการนมัสการที่ถูกต้องนิยมเดินวนรอบพระเจดีย์ตามเข็มนาฬิกา

ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของ พระเจดีย์โบตาทาวน์ ก็คือ เทวรูปนัตโบโบยี (Nat Bo Bo Gyi) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ เทพทันใจ ที่เชื่อกันว่า อธิษฐานขอสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจ ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาริมน้ำด้านข้างของเจดีย์โบตาทาวน์ การขอพรกับท่านเทพทันใจมีเงื่อนไขว่า “ต้องขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น” พร้อมกับนำดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม และผลไม้มาสักการะ เช่น มะพร้าวอ่อน กล้วยนากสีแดง ฯลฯ หากไม่ได้เตรียมไป สามารถบูชาเครื่องไหว้ที่หน้าวัดได้ จากนั้นนำเงินธนบัตรม้วนเป็นกรวยเสียบไว้ที่มือขวาของเทวรูป 2 ใบ ยื่นหน้าผากของเราสัมผัสกับนิ้วชี้ของเทวรูปนัตโบโบยี ไหว้ขอพรและดึงธนบัตรกลับมา 1 ใบ เก็บรักษาไว้เป็นเงินขวัญถุง เท่านี้เป็นอันเสร็จพิธี

ข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่ง จะพบกับอีกหนึ่งเทพขอพรที่คนไทยรู้จักกันดีนั่นก็คือ เทพกระซิบ หรือชื่อเต็มๆ ว่า อะมาดอว์เมี๊ยะ ธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ จนกลายเป็นนัต หรือเทพเจ้าที่ชาวพม่าเคารพนับถือ สำหรับการบูชาเทพกระซิบ ให้บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ โดยมีขั้นตอนการสักการะ คือ ยกมือไหว้พร้อมกับนำดอกไม้วางบูชา โรยดอกมะลิตรงหน้าเทพกระซิบ นำหลอดดูดกล่องนมจ่อบริเวณริมฝีปาก เสร็จแล้วส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ ตามด้วยการป้องปากกระซิบที่ข้างหูด้านซ้ายเบาๆ อย่าให้ใครได้ยิน เชื่อว่าจะสำเร็จทุกประการ แนะนำว่าคิดคำอธิษฐานเอาไว้ล่วงหน้า เนื่องจากคิวขอพรเทพกระซิบค่อนข้างยาวเลยล่ะ

ขอขอบคุณ:  ที่เที่ยวน่าไป