โรคกระเพาะอาหารทั้งชนิดที่เป็นแผลและไม่เป็นแผล อาการจะคล้ายคลึงกัน คือมีอาการปวดจุกแน่นใต้ลิ้นปี่ เหนือสะดือ ปวดใต้ชายโครงซ้าย บางรายปวดแน่นถึงหน้าอก อาการมักเป็นๆหายๆ และสัมพันธ์กับมื้ออาหาร อาจปวดก่อนอาหารเวลาหิว ปวดหลังอาหารเวลาอิ่ม และอาการจะดีขึ้นได้เมื่อได้รับประทานอาหารเมื่อโรครุนแรงขึ้นอาจมี อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระดำ หรือเบื่ออาหาร น้ำหนักลด

 

 

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร

          1.  เชื้อโรคแบคทีเรีย ชื่อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลโร ซึ่งจะติดต่อได้จากการกินอาหาร หรือ ดื่มน้ำที่ไม่สะอาดปนเปื้อนเชื้อโรคเหล่านี้ เชื้อโรคดังกล่าวนี้ ทำให้เกิดแผลกระเพาะอาหารและมะเร็งบางชนิดของกระเพาะอาหารได้

 

อาการปวดท้องที่ควรพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม (Alarming Symptom)

          1.  ถ่ายดำหรือถ่ายมีเลือดปน

 

แนวทางการรักษา

          ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดจุกแน่นท้อง จุกเสียด ลมเรอ แสบท้อง มานานไม่เกิน 2 สัปดาห์ และไม่มีอาการเตือนที่สำคัญ มีแนวทางรักษา ดังนี้

                    1.  รับประทานยาลดกรดในกระเพาะอาหาร 

          แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหลังปฎิบัติตามข้างต้น หรือ อาการเป็นมานานกว่า 1 เดือน หรือมีอาการเตือนที่สำคัญตั้งแต่ต้น จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยเพิ่มเติม คือ “การส่องกล้องกระเพาะอาหาร”

 

ถ้าไม่มีแผลในกระเพาะอาหาร

          ให้ปฎิบัติตามดังกล่าวข้างต้น อาจต้องรับประทานยานาน 4 สัปดาห์

 

ถ้ามีแผลในกระเพาะอาหาร

          1.  ต้องตัดชิ้นเนื้อจากแผล เพื่อตรวจหาว่าเป็นมะเร็งหรือไม่

 

          การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร นอกจากดูว่ามีแผล เนื้องอก และมะเร็งหรือไม่ ยังสามารถฉีดยาหรือห้ามเลือดด้วยวิธีต่างๆผ่านการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารในผู้ป่วยที่มีเลือดออกจากกระเพาะอาหาร และสามารถติดตามดูการหายของแผลได้