|
6 วิธีรักษา ความดันโลหิตสูง ด้วยตัวเอง อาจไม่ต้องกินยา 6 วิธีรักษา ความดันโลหิตสูง ด้วยตัวเอง อา | |
6 วิธีรักษา “ความดันโลหิตสูง” ด้วยตัวเอง อาจไม่ต้องกินยา
ความดันสูง ลดได้ หากเราดูแลตัวเองตามเคล็ดลับไม่กี่ข้อนี้ อาจารย์ ดร.กภ.ธวัชชัย ลักเซ้ง สำนักวิชาสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ระบุว่า จากข้อมูลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นั้นได้แบ่งกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (non-communicable diseases, NCDs) ออกเป็น 6 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคเบาหวาน (diabetes mellitus) โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ (cardiovascular & cerebrovascular diseases ) โรคถุงลมโป่งพอง (emphysema) โรคมะเร็ง (cancer) โรคความดันโลหิตสูง (hypertension) และโรคอ้วนลงพุง (obesity) โรคความดันโลหิตสูงนับเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สำคัญทางสาธารณสุขที่ควรได้รับการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากปัญหาหลักของการควบคุมโรคความดันโลหิตสูงในประเทศไทย คือ การที่ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรค ทำให้ไม่สามารถได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ จนส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมา เช่น โรคเส้นเลือดในสมองแตก เป็นต้น ความดันโลหิตคืออะไรความดันโลหิต (blood pressure) เกิดจากแรงที่หัวใจบีบตัวจนเกิดแรงดันที่ผลักต้านภายในหลอดเลือด ความดันโลหิตมีจำนวน 2 ค่า เสมอ คือ
สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่าร้อยละ 90 จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยร่วมบางอย่างที่อาจส่งเสริมให้เกิดความดันโลหิตสูง เช่น ปัจจัยทางด้านพันธุกรรมและพฤติกรรม เป็นต้น และผู้ป่วยความดันโลหิตสูงประมาณร้อยละ 10 จะเป็นความดันโลหิตสูงชนิดที่ทราบสาเหตุ เช่น ความดันโลหิตสูงจากการใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด หรือการเกิดเนื้องอกของต่อมหมวกไต เป็นต้น การจำแนกความรุนแรงของโรคความดันโลหิตสูงตามแนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป โดยสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2562 ได้ให้ข้อมูลการกำหนดระดับความดันโลหิตที่วัดในคลินิก โรงพยาบาล หรือสถานบริการสาธารณสุข ดังแสดงในตารางที่ 1 ตารางที่ 1 แสดงการจำแนกโรคความดันโลหิตสูงตามความรุนแรงในผู้ใหญ่อายุ 18 ปี ขึ้นไป (แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป โดยสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2562)
จากตาราง จะสังเกตได้ว่า
การวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องชนิดพกพาที่บ้าน (self หรือ home blood pressure monitoring, HBPM) แนะนำให้ตัวผู้ป่วยเอง (หรือญาติผู้ดูแล) วัดและจดบันทึกค่าความดันโลหิตเอาไว้เพื่อนำมาให้แพทย์พิจารณาประกอบการรักษา โดยแนะนำให้วัดความดันโลหิตที่บ้านวันละ 2 ช่วงเวลา คือ ในช่วงเช้า และในช่วงเย็น โดยวัดความดันโลหิตจำนวน 2 ครั้งในแต่ละช่วงเวลา (วัดช่วงเช้า 2 ครั้ง และช่วงเย็นอีก 2 ครั้ง รวมวัดวันละ 4 ครั้ง) เป็นเวลาติดต่อกัน 3-7 วัน หากพบว่าความดันโลหิตอยู่ในช่วงที่สูง (ทั้งที่ไม่ได้ออกแรงเยอะ) ให้ปรึกษาแพทย์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ครบ 7 วัน ตารางที่ 2 สรุปคำแนะนำในการวัดความดันโลหิตโดยวิธี home blood pressure monitoring (HBPM) (แนวทางการรักษาโรคความดันโลหิตสูงในเวชปฏิบัติทั่วไป โดยสมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2562)
ระดับของคำแนะนำ I หมายถึง “ควรปฏิบัติ” เนื่องจากความมั่นใจของคำแนะนำให้ปฏิบัติอยู่ในระดับสูง มีประโยชน์ต่อผู้ป่วย และมีความคุ้มค่า การป้องกันและควบคุมโรคความดันโลหิตสูงโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต การรักษาโรคความดันโลหิตสูงด้วยการรับประทานยาเพียงอย่างเดียว ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุของโรค ดังนั้นส่วนที่สำคัญมากก็คือการป้องกันและควบคุมโรคความดันโลหิตสูงโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิต ซึ่งมีข้อแนะนำดังต่อไปนี้จำนวน 6 ข้อ คือ
ควรพยายามควบคุมให้มีค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 18.5 – 22.9 กก./ตร.ม. และมีเส้นรอบเอวสำหรับผู้ชายไม่เกิน 90 ซม. (36 นิ้ว) และสำหรับผู้หญิงไม่เกิน 80 ซม. (32 นิ้ว) หรือ ไม่เกินส่วนสูงหารสอง ทั้งเพศชายและหญิง
ควรแนะนำให้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ โดยในแต่ละมื้อมีปริมาณอาหารที่เหมาะสม
โดยจำกัดปริมาณการบริโภคโซเดียมไม่เกินวันละ 2 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือแกงปริมาณ 1 ช้อนชา (5 กรัม) หรือน้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว 3-4 ช้อนชา และควรจำกัดปริมาณการใช้ผงชูรสด้วย
ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิก อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน อย่างไรก็ตามผู้ที่มีภาวะต่อไปนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย คือ
ในผู้ที่ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนเลย ไม่แนะนำให้ดื่ม หรือ ถ้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ควรจำกัดปริมาณ คือผู้หญิงไม่เกิน 1 ดื่มมาตรฐาน (standard drink) ต่อวัน และผู้ชายไม่เกิน 2 ดื่มมาตรฐานต่อวัน ตัวอย่าง 1 ดื่มมาตรฐาน (standard drink) เช่น
การเลิกบุหรี่อาจไม่ได้มีผลต่อการลดความดันโลหิตโดยตรง แต่สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ขอขอบคุณ: ต่างประเทศ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ฮารุ :: วันที่ลงประกาศ 2022-10-03 13:58:46 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4474841) | |
X’mas is coming! ไอเดียทำเล็บ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฮานามิ วันที่ตอบ 2022-11-17 16:15:49 |
[1] |
Copyright © 2008-2012 All Rights Reserved. VORAVITCH SINGHANART |
Visitors : 106791 |